Print
Hits: 2821
แค้นโหดฆ่า44ศพคางานวิวาห์

 

 

 

กลุ่มมือปืนคลุมหน้าบุกโจมตีด้วยระเบิดมือและไรเฟิลกลางงานแต่งงานในหมู่บ้านห่างไกลทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีเมื่อค่ำวันจันทร์   สังหารหมู่แขกร่วมงานที่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่  44  ศพ  รวมทั้งเจ้าบ่าว-เจ้าสาว  ทางการตุรกีรีบชี้แจงเป็นศึกล้างเลือดระหว่างสองตระกูล  ไม่ใช่การก่อการร้าย

     เหตุการณ์นองเลือดเมื่อค่ำวันจันทร์   นับเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งในหมู่พลเรือนด้วยกันเองครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศที่เสนอตัวขอเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปแห่งนี้ 

     รัฐมนตรีมหาดไทยเบซีร์   อะตาลาย  แถลงข่าวในวันอังคารว่า  การสังหารหมู่ที่งานวิวาห์ในหมู่บ้านบิลเกในจังหวัดมาร์ดิน  ถิ่นของชนเชื้อสายเคิร์ด  ครั้งนี้เป็นการล้างแค้นกันระหว่างคน   2  ตระกูล  โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้  8  รายพร้อมกับยึดอาวุธไว้ได้เมื่อคืนวันจันทร์

     "การประเมินเบื้องต้นชี้ว่าการโจมตีมีชนวนเหตุจากความเป็นศัตรูคู่อาฆาตและปัญหาทะเลาะวิวาทกันระหว่างคนสองตระกูล  หลักฐานถึงขณะนี้แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มก่อการร้าย"  รัฐมนตรีผู้นี้กล่าวเป็นนัยถึงกองโจรแบ่งแยกดินแดนชาวเคิร์ดที่เคลื่อนไหวในพื้นที่นี้

     สำนักข่าวอะนาโตเลียนของทางการตุรกีรายงานคำบอกเล่าของพยานว่า  ขณะพิธีดำเนินไปได้ราว  15  นาที  โดยมีแขกเหรื่อมาร่วมงานราว  200  คนนั้น  มือปืนราว  6  คนได้บุกเข้าไปในบ้าน   2  หลัง  ที่แขกมารวมตัวกันทำละหมาดหลังพิธีวิวาห์  โดยปาระเบิดมือใส่ก่อนแล้วก็สาดกระสุนฆ่าทั้งผู้ชายและผู้หญิง  ตัวเจ้าสาวซึ่งมีนามว่า  เซฟกี  เซเลบี  เป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้าน  และเจ้าบ่าวชื่อ  ฮาบิป  อารี  เสียชีวิตทั้งคู่

     สตรีวัย    19  รายหนึ่งเผยว่า  มือปืนได้ต้อนผู้หญิงและเด็กไปรวมกันที่ห้องห้องหนึ่งในบ้านหลังหนึ่งแล้วก็กราดยิง

     หลังก่อเหตุคนร้ายบางคนอาศัยพายุทรายและความมืด  หลบหนีออกจากพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้พรมแดนซีเรียได้ก่อนที่ทหารจะล้อมหมู่บ้านและปิดถนนเข้าสู่หมู่บ้าน

     อะตาลายกล่าวว่า   ในกลุ่มผู้เสียชีวิต  44  คน  มีเด็ก  6  คนและผู้หญิง  16  คนรวมอยู่ด้วย  ก่อนหน้านี้ทางการตุรกีระบุว่าผู้เสียชีวิตมีทั้งสิ้น  45  ราย 

     ชาวบ้านกล่าวกันว่า    พื้นที่แถบนี้มีปัญหาอาฆาตพยาบาทกันระหว่างนักรบอาสาพิทักษ์หมู่บ้านกลุ่มต่างๆ   มายาวนานกว่า  10  ปีแล้ว  ครอบครัวของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็พัวพันอยู่ในความขัดแย้งนี้ด้วย   กำลังทหารกึ่งบ้านที่ว่านี้ทางรัฐจัดตั้งขึ้นเมื่อปี  2538  เพื่อสู้รบกับพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนเคิร์ด   มีกำลังราว  57,000  คน  การที่คนกลุ่มนี้ได้รับสิทธิในการพกพาอาวุธ   แจ้งข่าวต่อทางการ  และสังหารได้ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐทำให้พวกเขามีพลังอำนาจในพื้นที่    ซึ่งฝ่ายวิจารณ์ระบุว่าคนพวกนี้มักใช้สถานภาพของตนในการแก้ปัญหาขัดแย้งระหว่างตระกูลและยึดครองที่ดิน

     ชายวัย   44  ปีซึ่งเสียญาติไป  2  คนเผยกับรอยเตอร์ว่า  การโจมตีครั้งนี้มีต้นเหตุจากเจ้าสาว  แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นฝีมือฝ่ายใด

     การแต่งงานในท้องถิ่นอนุรักษนิยมทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีมักเป็นสาเหตุของการแก่งแย่งกันในหมู่ฝ่ายชาย   ที่ต้องเสนอสินสอดแก่ฝ่ายหญิ ง โดยที่มักลงเอยที่ฝ่ายที่เสนอสินสอดมากกว่าเป็นผู้ชนะ

     นายกฯ  ทายยิป  เออร์โดอัน  กล่าวว่า   ไม่ว่าประเพณีเก่าแก่ชนิดใดก็ไม่อาจใช้เป็นเหตุผลในการสังหารผู้คนเช่นนี้.

ที่มา thaipost.net

 {mosloadposition user26} {mosloadposition user27}
 {mosloadposition user28}