ตลอด ปี 2551 ที่ผ่านมา วงการบันเทิงไทย มีภาพยนตร์และละครเข้าฉายสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมมากมาย ละคร และภาพยนตร์หลายเรื่องถึงแม้จะจบไปแล้ว แต่ก็ยังสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้ไม่รู้ลืม แถมหนังและละครบางเรื่อง ยังก่อให้เกิด “ประโยคฮิต วลีเด็ด” มากมาย ที่ดูครั้งใดก็ยังประทับใจผู้ชมไม่เสื่อมคลาย ทั้งคำพูดที่ฮิตติดปาก สร้างเป็นกระแสให้สังคมพูดถึง “บันเทิงเดลินิวส์” ทำการรวบรวมเอาไว้ สรุปส่งท้ายปลายปีกัน


เริ่มจาก “ประโยคฮิต วลีเด็ด” ในหนังไทยประจำปี 2551 กันก่อน ซึ่งต้องยกให้ “ปิดเทอม ใหญ่...หัวใจว้าวุ่น” หนังรัก 4 เรื่อง 4 รส 4 วัย ของผู้กำกับรางวัล “หมีเบอร์ลิน” ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่มีประโยคเด็ดเยอะซะเหลือเกิน

ประโยคแรกเล่นเอาเจ็บจี๊ดในหัวใจชนิดที่ว่า หากเป็นชีวิตจริง คนฟังต้องเจ็บแปล๊บขึ้นมาแน่ ๆ กับประโยค ที่ “นวล” (จุก-ธนิยา อำมฤตโชติ) พูดกับ “เหิร” (เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) บนรถไฟ ขณะที่ทั้งคู่มาเจอกันอีก ครั้งในวันรับน้องใหม่ หลังจากเลิกรากันไป เพราะฝ่ายหญิงโดนหักอกมา พระเอกถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” นางเอกตอบด้วยหน้านิ่ง ๆ ว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่เจ็บ” ประโยคนี้ทำเอาคนในโรงหนังฮือฮา เพราะสั้น ๆ ได้ใจความเหลือเกิน



ในหนังเรื่องเดียวกัน ยังมีคำติดปากที่หลุดออกมาฮานอกจอด้วย กับคำว่า “ตับเธอมีปัญหามั้ย” เป็นฉากตอนที่ “โอ๋เล็ก” (โฟกัส จีระกุล) ไปเรียนภาษาจีน เพื่อจะเอามาฝึกพูดตอนที่นักร้องไต้หวันสุดหล่อในดวงใจมาเมืองไทย ไม่รู้เรียนยังไง ผสมคำแบบไหน ถึงได้ออกมา “ฮา” ซะขนาดนี้ ยิ่งถ้าคนรู้ภาษาจีน แล้วเข้าใจความหมายจะยิ่ง “ฮาใหญ่” ขนาดออกจากโรงมาแล้ว ผู้ชมล้วนแต่เอามุกนี้มาเล่นกันสนุกสนาน



แหม...ประโยคฮิต วลีเด็ด ของ “ปิดเทอมใหญ่ฯ” ยังไม่หมดแค่นั้น ยังมีอีกหนึ่งประโยคที่ต้องเอามาพูดตามกันนอกจอ เป็นประโยคฮิตจากภาษาอังกฤษ “It’s so hot” (ฉันร้อนมากกกกก....) ที่สาวเอ็กซ์อย่าง โซระ อาโออิ พูดกับพระเอกตอนมาชวนไปเล่นน้ำทะเลด้วยบิกินีตัวจิ๋ว เล่นเอาคนฟังร้อนผ่าวกันเป็นแถว




ส่วนหนัง “รัก/สาม/เศร้า” นั้น ก็ไม่น้อยหน้า มีวลีเด็ด ๆ ฟังแล้วซึ้ง สะอึกหัวใจมาให้อีก อย่างประโยคที่ว่า “ถ้าเราเป็นแฟนกัน เราจะไม่ทำให้กันต้องร้อง ไห้ใช่ไหม” ประโยคนี้ นางเอก พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ พูดกับพระเอก เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ ตอนที่นางเอกกำลัง จะตกลงเป็นแฟนกับพระเอก ทำเอาซึ้ง... ไม่ใช่เล่น



อีกประโยคที่ประทับใจ ไม่ใช่คำพูด แต่เป็นข้อความที่ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ เขียนไว้ในสมุดบันทึก จนค่ายหนังหยิบคำนี้มาเป็นตัวโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง ดังกล่าว ประโยคนี้ก็คือ “เมื่อคนที่เรารักกลายเป็นคนรักของเพื่อนที่เรารักที่สุด” และตอนที่นางเอกใส่เสื้อยืดสกรีนคำว่า “กูฟังเพลงไทย” พระเอกเห็นแล้วก็ตอบกลับแบบหน้าซื่อ ๆ ว่า “กูเล่นเพลงไทย” ก็ทำเอาคนดูเข้าใจอารมณ์ตัวละค ที่บอกรักกันแบบไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย นอกจากนี้ยังมี คำเด็ด ๆ ที่แม้อาจจะไม่ฮิต แต่ก็เป็นคำที่มีความหมายกินใจ และให้ข้อคิดเป็นอย่างมาก



อาทิ “เออเนอะ! คนเราเวลาแค่ 3 นาที บางครั้งมันก็หายาก” และ “เดี๋ยวความทรมานจะบีบให้เรากล้าเอง” ซึ่งทั้งสองประโยคนี้ ก็เป็นตอนที่ ก้อย-รัชวิน พูดกับ เป้-อารักษ์ เพื่อที่จะบอกอะไรบางอย่างที่มีความหมายซ่อนอยู่

“อยากดูกูตายนักใช่ไหม” อาจไม่ใช่ประโยคฮิต แต่เป็นคำไขปริศนาทั้งหมดในหนัง “โปรแกรมหน้า...วิญญาณอาฆาต” ได้เป็นอย่างดี ใครที่ได้ดูก็ล้วนแล้วแต่สยองปนสะดุ้งกับประโยคคำถามนี้ทั้งนั้น



ส่วนในหนัง “หนึ่งใจเดียวกัน” ภาพยนตร์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ก็มีประโยคสวย ๆ ความหมายดี ๆ กับประโยค “บางทีบางสิ่ง เราจับต้องมันไม่ได้ แต่สัมผัสมันได้ถึงหัวใจ” และถึงแม้จะเป็นหนังเศร้าเคล้าน้ำตา แต่ก็มีประโยคฮากับเขาด้วยเหมือนกันคือ “You are so beautiful” (คุณสวยมาก) บางคนอาจคิดว่า “ฮา” ตรงไหน แต่ถ้าเกิดไปดูในหนัง รับ รองต้อง “อมยิ้ม” กับประโยคนี้แน่ ๆ เพราะการแสดงของเด็ก ๆ ในเรื่องนี้น่ารักมาก ๆ




หลายคนยังจำกันได้กับวลีฮิต “จะฟังเหรอ เรื่องมันยาวนะ” จาก “บุญชู” ภาพยนตร์แฟรนไชส์สัญชาติไทย ที่ทำออกมาถึง 9 ภาค ซึ่งภาค 9 “บุญชู ไอ-เลิฟ-สระ-อู” ห่างกันกับภาค 8 ถึง 13 ปี พอมาถึงรุ่นลูก บุญชูก็ยังไม่วายชอบเรื่องยาว ๆ ใครถามอะไรก็มักจะตอบยาวเสมอ เป็นการบ่งบอกเอกลักษณ์เฉพาะตัวของบุญชูได้เป็นอย่างดี



“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง” ก็เป็นคำเด่นอีกคำในหนัง “บุญชู” เช่นกัน แต่เป็นคำพูดที่ตัวละคร “หยอย” (กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ) มักจะพูดติดปากเป็นประจำ และก็อยู่คู่ “บุญชู” มาตั้งแต่ภาคแรกจนถึงปัจจุบัน เรียกว่าเป็นมุกประจำที่ขาดไม่ได้

“กล้วยทอดแล้ว” คำอุทานของ เซน 1-ด.ช.สรรภวัต สุระเกรียงศักดิ์ ในหนัง “ดรีมทีม” ก็เรียกเสียงฮาให้ผู้ชมได้ไม่น้อย ส่วน “เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวเลย” ที่พูดกันมานมนาน เมื่อมารวมกับท่าทางและหน้าตาอันมีเอกลักษณ์ของเซน 1 แล้ว ต้องบอกว่า “ฮา” ทั้งโรง




ส่วนหนังธรรมะสนุกสนาน “อรหันต์ซัม เมอร์” ก็มีวลีฮิตกับเขาเหมือนกันว่า “โจรปล้นใจ” ที่ น้องคิตตี้-ด.ญ.กัจนฐานิยา ศรีฌรจน์วัฒนะ พูดตอนที่เจอโจรเข้ามาปล้นที่ร้าน กลายเป็นมุกฮาประจำหนังจนต้องตัดไป เป็นหนังตัวอย่าง ยิงให้คนขำกันกระจาย




มาถึงละครไทย ที่ใครชอบหาว่า “น้ำเน่า” แต่คำฮิต วลีเด็ด ไม่เน่าตาม เพราะ มีการนำมาพูดถึงกันในสังคมเป็นวงกว้าง ประเดิมด้วย “นางทาส” ที่มีคำฮิตจากปากของ “อีป่วน” (นริสา พรหมสุภา) ทาสคู่ปรับของ “คุณบุญมี” (อรวรรณษา ฐานวิเศษ) ที่มักจะรำพึงขึ้นมาเสมอว่า “แต่ก็มิได้นำพา” เวลาที่เตือนอะไรแล้วนายไม่ฟัง สร้างกระแสมิได้นำพาฟีเวอร์ จนกลายเป็น คำพาดหัวฮิตของหนังสือพิมพ์ในช่วงเวลา นั้น


ที่มารูป nunonny.blogspot

ขอออกแนวธรรมะธัมโมกันหน่อยกับ “พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ในละครดังปลายปี “ศิลามณี” ที่มีสะใภ้นอกทำเนียบ กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง แสดงนำ คำพูดนี้ เป็นคำติดปากของ “ป้าหอมนวล” (ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี) พี่เลี้ยงคนสนิทของนางเอก ที่มักจะอุทานขึ้นมาเวลาที่มีอะไร ทำให้ตกใจ อีกคำที่ฟังแล้วติดหู เพราะพูดในละครบ่อยเหลือเกิน “ขอสุมา เต้อเจ้า” เป็นคำขอโทษในภาษาเหนือที่ตอนนี้ฮิต ออกมานอกจอ เวลาจะขอโทษใคร เป็นต้องอู้คำเมืองกลับไปทุกที




“ธิดาวานร” สร้างปรากฏการณ์ละครเย็นด้วยเรตติ้งสูง จนต้องสั่งทำตอนเพิ่ม ก็มีคำฮิตกับเขาเหมือนกัน โดยนางเอกลูกลิง เอมี่-อาเมเรีย จาคอป มักจะพูดเสมอตอนอยู่ในป่าว่า “แม่มา แม่มา” เล่นเอาลูกเด็กเล็กแดง พูดตามกันเป็นทิวแถว จะเรียกว่าเป็นคำแจ้งเกิดให้เธอก็ไม่ผิดนัก



ไม่ว่าจะเป็นประโยคใด คำใด จะฮิตหรือไม่ฮิต แต่ถ้าเป็นการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ เพื่อแฟนหนัง แฟนละคร ก็ถือเป็นสิ่งดี ส่วนปี 2552 นี้ คงต้องมาจับตามองกันอีกที ว่าจะมีคำใดฟีเวอร์ “ฮิตติดหู ฮอตติดปาก” กันอีกหรือเปล่า ที่แน่ ๆ ผู้อ่านของเรา ขอให้เจอแต่ความสุขจ้า.




ที่มา เดลินิวส์ มยุรี อำนวยพร รายงาน